บริษัท โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลสิโรรส (“เรา” หรือ “โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี”) - มุ่งมั่นที่จะปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ซึ่งข้อมูลต่อไปนี้คือแนวทางที่เราปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็น การเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย (เรียกรวมกันว่า “การประมวลผล”) และการปกป้องซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้กับเราในระหว่างเยี่ยมชม เว็บไซต์ https:// www.siroroshospitalpattani.com หรือใช้แอพพลิเคชั่นของเรา หรือรับบริการจากเรา นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ครอบคลุมถึงข้อมูลใดๆ ที่สามารถระบุถึงตัวท่านได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และไม่ว่าจะได้รับจากท่านโดยตรงหรือเป็นการส่งต่อมาจากบุคคลที่สามก็ตาม (“ข้อมูล” หรือ “ข้อมูลส่วนบุคคล”) สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลด้านสุขภาพของท่านนั้น นอกเหนือจากการปฏิบัติตามนโยบายนี้แล้ว เราจะยึดถือปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฎ ประกาศ คำสั่งหรือระเบียบของหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม เราในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ขึ้น ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับการให้บริการเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของเรา รวมทั้งการเข้ารับบริการของท่าน โดยในการใช้บริการดังกล่าวในแต่ละครั้งให้ถือว่าท่านได้อ่านและตกลงยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เราเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็น ในกรณีที่ท่านเป็นผู้ยินยอมให้ข้อมูลกับเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อการขอรับบริการจากเราผ่านช่องทางเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่นบนมือถือ หรือช่องทางอื่นใดของเรา ตัวอย่างเช่น การนัดหมายแพทย์ การทำธุรกรรมแบบออนไลน์ การสมัครรับจดหมายข่าว การขอรับความช่วยเหลือพิเศษ รวมไปถึงการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การลงทะเบียนผู้ป่วยที่เคาน์เตอร์ลงทะเบียนของโรงพยาบาลนอกจากนี้ เราอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบุคคลที่สาม เช่น บุคคลในครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดของท่าน โรงพยาบาลหรือบริษัทในเครือข่ายของบริษัท โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด (“โรงพยาบาลในเครือข่าย” หรือ “บริษัทในเครือข่าย”) ซึ่งรวมถึงบริษัท โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ด้วย ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ให้บริการของเรา หรือหน่วยงานภาครัฐในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวไว้ หรือเป็นการเปิดเผยตามที่กฎหมายกำหนด
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมโดยตรงจากท่าน หรือจากบุคคลที่สาม มีดังนี้
เราอาจประมวลผลข้อมูลของท่านโดยอาศัยความยินยอมของท่าน หรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างกัน หรือการใดๆ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเรา สำหรับวัตถุประสงค์ดังนี้
เราอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลที่สาม ซึ่งอาจตั้งอยู่ภายในหรือนอกประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์การให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายกำหนด และเราจะดำเนินตามมาตรการที่จำเป็นและเหมาะสม หรือเป็นไปตามข้อบังคับและกฎหมาย เพื่อวัตถุประสงค์ที่ตามระบุไว้ข้างต้น ให้แก่บุคคลดังต่อไปนี้
เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นบนมือถือของเรา อาจมีลิงก์เชื่อมไปยังเว็บไซต์บุคคลที่สาม หากท่านไปตามลิงก์เหล่านี้ นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ไม่ครอบคลุมไปถึงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ดังนั้น การที่บุคคลที่สามประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจึงอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา และโปรดทราบว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและความรับผิดใดๆ จากการกระทำของบุคคลที่สามดังกล่าว
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกเก็บรักษาไว้นานเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ที่อธิบายไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ หรือภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย หรือเพื่อการดำเนินการทางกฎหมาย เมื่อพ้นระยะเวลาดังกล่าวแล้ว หากท่านไม่แสดงความยินยอมให้เราทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป เราจะดำเนินการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามขั้นตอนการทำลายข้อมูลของเราและจะดำเนินการให้เสร็จโดยไม่ชักช้า
เราจะใช้มาตรการทางเทคนิค และการบริหารจัดการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่เราเก็บรวบรวม เช่น เราใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และเราจะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของท่าน ไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเตอร์เน็ตหรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากรที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงโดยจำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
ท่านอาจติดต่อเรา/เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล/เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อยื่นคำร้องขอดำเนินการใช้สิทธิของท่านดังต่อไปนี้
หากท่านต้องการใช้สิทธิใดๆ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ กรุณาดำเนินการเป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมแนบสำเนาหลักฐานเพื่อแสดงตัวตน และหากท่านมีคำถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียนเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยติดต่อที่
Call Center 073-348100-2 หรือติดต่อตามที่อยู่นี้
บริษัท โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด
30/10 ม.10 รูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี 94000
อีเมล์ siroros.pattani@gmail.com
ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องแจ้งให้เราทราบ ได้แก่
เราอาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของการให้บริการและการดำเนินงานของเรา ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากท่าน รวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยนโยบายเวอร์ชั่นล่าสุดจะประกาศบนเว็บไซต์ของเราที่ https://www.siroroshospitalpattani.com/ เพื่อให้ท่านทราบแนวทางที่เราใช้ในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565
บริษัท โรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี (“โรงพยาบาล”) โดยมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและโดยรอบสถานที่ อาคาร เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินของผู้เข้ารับบริการ ผู้ติดต่อ บุคลากรในโรงพยาบาล ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือบุคคลใดๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ โรงพยาบาลยืนยันว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
เพื่อเป็นเอกสารแนวทงชี้แจงให้ผู้เข้ารับบริการผู้ติดต่อ บุคลากรในโรงพยาบาล ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง หรือบุคคลใดๆทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่โรงพยาบาล เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ขอบข่ายทุกพื้นที่ที่มีการเข้าดูแลภายในอาการและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
ในนโยบายฉบับนี้ คำหรือข้อความสามารถนิยามได้ดังนี้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง กลุ่มบริษัทโรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี บริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัทโรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาล บริษัทโรงพยาบาลสิโรรส จำกัด ในฐานะผู้ประกอบกิจการโรงพยาบาลสิโรรส เว็บไซต์ เว็บไซต์ ซึ่ง โรงพยาบาลสิโรรส เป็นเจ้าของหรือให้บริการแล้วแต่กรณี สถานพยาบาลในเครือข่าย สถานพยาบาลในกลุ่มหรือในเครือข่ายของเครือ บริษัทโรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะจดทะเบียนทั้งในประเทศหรือในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัทโรงพยาบาลสิโรรสปัตตานี จำกัด ซึ่งใช้ระบบจัดเก็บข้อมูลร่วมกัน
6.1 บททั่วไป
นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสม โดยโรงพยาบาลอาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของโรงพยาบาลและหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามรายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดนี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ดี โรงพยาบาลจะเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน้าเว็บไซต์ และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ โรงพยาบาลจะแจ้งให้ท่านทราบ
6.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลเก็บรวบรวมจากท่าน
6.2.1 ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลมีการจัดเก็บ
ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับโรงพยาบาลโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่โรงพยาบาลได้รับมาจากบุคคลภายนอกหรือโรงพยาบาลได้รับมาจากแหล่งที่มาอื่น สามารถจำแนกเป็นประเภทดังต่อไปนี้
6.2.2 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
โรงพยาบาลเก็บรวบรวมภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน และภาพสิ่งของ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ในบางกรณีโรงพยาบาลอาจจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวของท่าน (เช่น การภาพสแกนใบหน้า (Face Scan/ Face Recognition) ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น
6.3 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โรงพยาบาลจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของโรงพยาบาลเท่านั้น โดยโรงพยาบาลได้สรุปการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน พร้อมทั้งอธิบายฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้
6.3.1 วัตถุประสงค์ที่โรงพยาบาลดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โรงพยาบาลอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งได้แก่
(1) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
(2) ฐานการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(3) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
(4) ฐานการขอความยินยอมกรณีเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว
ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (1) ถึง (4) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
6.3.2 เพื่อการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของโรงพยาบาล และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการเข้าและออกเพื่อปฏิบัติงานในสถานที่ของโรงพยาบาล การแลกบัตรเข้าออกอาคารหรือสถานที่ของโรงพยาบาล และการบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของโรงพยาบาล และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงาน หรือบริเวณพื้นที่โดยรอบด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
6.3.3 เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ผู้ใช้บริการ และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในอาคารและสถานที่ รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของบริษัทไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าออกเขตหวงห้าม
6.3.4 เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน
6.3.5 เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลายทรัพย์สิน และอาชญากรรมอื่นๆ
6.3.6 เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม
6.3.7 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ หรือใช้เพื่อเป็นพยานหลักฐานกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในหรือบริเวณอาคารและสถานที่
6.3.8 เพื่อช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
6.3.9 เพื่อช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส
6.3.10 เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีทางแพ่ง และคดีแรงงาน
6.3.11 เพื่อการกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
ทั้งนี้ โรงพยาบาลจะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในบริเวณที่ท่านสามารถเห็นได้ง่าย และจะติดตั้งป้ายแจ้ง “สถานที่นี้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย” ที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
6.5 ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาลจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่านหรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือเมื่อโรงพยาบาลไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป หรือโรงพยาบาลหมดความจำเป็นในการเก็บรวบรวมต่อไป โรงพยาบาลจะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของโรงพยาบาล หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้
6.6 สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้โรงพยาบาล ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาติ